6 วิธีเลือกงาน เมื่อได้งานพร้อมกันหลายที่ - EngineerJob Blog
เชื่อได้ว่าเป็นปัญหาที่ใครๆ ก็อยากจะเจอ (happy problem) ได้ข้อเสนอมาพร้อมกันหลายๆ บริษัทเป็นเรื่องที่น่ายินดี นั่นหมายความว่าความสามารถ หรือโปรไฟล์ของคุณนั้นเป็นที่ต้องการในตลาดอยู่พอสมควร
แต่การเลือกระหว่างงาน 2 บริษัทนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันคือจุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิตของคุณ เพราะฉนั้นไม่ควรใช้อารมณ์มาเป็นตัวตัดสินใจอย่างเดียว เช่น “บริษัท A เป็น Sponsor รายใหญ่ของประเทศ ไปที่ไหนก็มีแต่โฆษณา แล้วเงินเดือนก็เสนอมาให้สูงกว่าบริษัท B มาก ดังนั้นจึงเลือกบริษัท A…” ลองถอยหลังกลับมาสักนิด คิดช้าๆ แน่นอนว่ามันไม่มีอะไรผิด ไม่มีอะไรถูก แต่อย่างน้อยก็ควรคิดให้ดี และมองจุดหมายในระยะยาว
เลยอยากจะแชร์ขั้นตอนที่พวกเราเคยใช้ตอนที่ได้รับข้อเสนอมาพร้อมๆ กัน 2 บริษัท ลองปรับใช้ดูหากรู้สึกว่าเลือกงานไม่ถูก ตัดสินใจไม่ได้
หาข้อมูลของแต่ละบริษัทให้เยอะที่สุด
บางคนถามว่าจะไปหาข้อมูลมากจากไหน.. ก่อนที่คุณจะได้รับข้อเสนอ อย่างน้อยก็ต้องมีโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์แล้วสักครั้ง และนี่คือช่วงที่คุณสามารถถามเกี่ยวกับสิ่งที่คุณอยากรู้..
อย่าดูแต่ตัวเลขเงินเดือน ให้ลองมองภาพใหญ่ๆ ขององค์กรนั้นๆ ด้วยว่าวัฒนธรรมของเค้าเป็นอย่างไร จะสามารถเข้ากับเค้าได้หรือเปล่า สวัสดิการในระยะยาวโอเคไหม หากคุณเพิ่งเริ่มทำงาน และรู้ตัวว่าคุณคงไม่ได้อยู่บริษัทนี้ไปตลอดจนเกษียณ ลองดูว่าถ้าออกกลางคัน คุณจะได้เงินสะสมไหม ได้เท่าไหร่ (แต่อย่าไปถามบริษัทตรงๆ เด็ดขาด ถ้าเค้ารู้ว่าคุณไม่คิดจะอยู่นาน ข้อเสนอนั้นอาจถูกปิดโดยทันที) หากจะอยู่ไปจนเกษียณอายุ แพลนเงินสะสมระยะยาวของบริษัทนั้นๆ เป็นอย่างไรบ้าง
การที่เรารู้รายละเอียดของทั้ง 2 บริษัท เป็นข้อดีที่เราได้สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการต่อรองเพื่อประโยชน์สูงสุด
เปรียบเทียบตัวต่อตัว
หลังจากหาข้อมูลของแต่ละบริษัทมาแล้ว ลองเอามาลิสต์เปรียบเทียบกันดูไปเลย
- เงินเดือน
- โบนัส
- สวัสดิการต่างๆ
- สวัสดิการด้านสุขภาพ
- เวลาเข้า-ออกงาน
- เนื้อหางาน ความท้าทาย
- สิ่งที่จะได้เรียนรู้ในงาน
- โอกาสในการเติบโต
- วิสัยทัศน์ (Vision) และ คุณค่า (Core Value) ขององค์กร
- ภาพลักษณ์องค์กร
- สถานที่ทำงาน ความสะดวกในการเดินทาง
อะไรคือสิ่งที่เราต้องการ
ถามตัวเอง และต้องหาคำตอบให้ได้ว่า “สิ่งที่คุณต้องการคืออะไร?” “เป้าหมายในชีวิตของคุณคืออะไร?” เพราะในบางครั้ง เงินก็ไม่ใช่ตัวตั้งเสมอไป หลายๆ คนเลือกที่จะทำงานบริษัทกลางๆ เงินเดือนกลางๆ แต่ได้ประสบการณ์เยอะ เรียนรู้เยอะ เพื่อนำความรู้นี้เป็นก้าวต่อไปในสายงานของตัวเอง ยิ่งในสายงานวิศวกรรม ประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญ หากคุณเชี่ยวชาญในด้านๆ หนึ่งแล้ว ความเป็น Expertise ก็จะมีมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เป็นที่ต้องการมากขึ้น
บริษัท A อาจจะมีสวัสดิการดีมาก ครอบคลุมไปถึงครอบครัว แต่เสนอเงินเดือนที่ต่ำกว่า และโบนัสน้อย ในขณะที่บริษัท B สวัสดิการไม่ครอบคลุมครอบครัว แต่โบนัสสูงมาก ซึ่งจริงๆ ทางครอบครัวของคุณเองก็มีสวัสดิการที่ดูแลในด้านนี้อยู่แล้ว สวัสดิการในส่วนนี้ก็อาจไม่ได้จำเป็นสำหรับคุณ
ได้เวลาต่อรอง
เมื่อคุณรู้แล้วว่าส่ิงที่คุณต้องการคืออะไร สมมุติว่าคุณเลือกบริษัท A เนื่องจากลองเปรียบเทียบดูแล้วตรงกับความต้องการมากที่สุด แต่ข้อเสนอในบ้างเรื่องยังไม่ตรงกับความต้องการหากเทียบกับบริษัท B ก็ลองเข้าไปเจรจากับบริษัท A ดูว่าสามารถปรับอะไรได้บ้างไหม แต่การต่อรองนั้นก็ต้องระวังเพราะถ้าคุณต่อรองในข้อเสนอที่มากเกินไป อาจจะทำให้คุณดูไม่ดี ควรต่อรองในจุดที่คุณรับได้ และเขารับได้เช่นกัน
เชื่อใจตัวเอง ชีวิตตัวเอง เลือกเอง
คุณอาจได้ยินเสียงรอบข้างว่าบริษัทนั้นดีกว่า บริษัทที่คุณจะเลือกไม่ดี.. รับฟังได้ แต่อย่าเชื่อทันที ให้ลองกลับมาหาข้อมูลดูเองก่อนว่าเป็นอย่างนั้นจริงไหม หากเป็นจริง เรารับได้ไหม เพราะสุดท้ายแล้วคนที่เข้าไปทำงานคือตัวคุณเอง และหากคุณเลือกทำจากการที่คนอื่นว่าดี หากเข้าไปไม่ดีจริงอย่างที่เขาว่า จะโทษคนๆ นั้นที่แนะนำคุณก็ไม่ถูก
ทางของคุณ คุณเลือกเอง ใจตัวเองชอบแบบไหนก็ลุยเลย
ปฏิเสธอย่างมีชั้นเชิง
หากได้บริษัทที่ต้องการแล้วก็อย่าเพิ่งดีใจจนเกินไป อย่าลืมอีกบริษัทที่เพิ่งถูกคุณปฏิเสธ ติดต่อไปยังบริษัทนั้นๆ แล้วแจ้งให้ทราบอย่างสุภาพ ขอบคุณโอกาส และข้อเสนอดีๆ จากบริษัทนั้น และเปิดประตูเผื่อไว้ในโอกาสต่อๆ ไป เพราะคุณไม่มีทางรู้ว่าสักวันหนึ่งคุณอาจจะได้ร่วมงานกับบริษัทนั้นๆ อีกก็เป็นได้!
Image Designed by Freepik